B-boy ถ้าดูป้ายที่ติดกำแพงละก็นะ - B-boy ถ้าดูป้ายที่ติดกำแพงละก็นะ นิยาย B-boy ถ้าดูป้ายที่ติดกำแพงละก็นะ : Dek-D.com - Writer

    B-boy ถ้าดูป้ายที่ติดกำแพงละก็นะ

    ให้ความเคารพต่อสถานที่

    ผู้เข้าชมรวม

    79

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    79

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  20 พ.ย. 57 / 13:37 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    เป็นเรื่องสั้นที่ผมแต่งขึ้นเพื่อเอาไว้ใช้ในการพรีเซ้นงานที่โรงเรียน  แต่ครูผู้สอนปฏิเสธเพราะเนื้อเรื่องสามารถเอา 2 หัวข้อการเรียนรู้เข้ามารวมกันได้ครูไม่ได้บอกว่าต้องแยกจากกัน ไม่งั้นบทยาวไปต้องเพื่อกลุ่มอื่นพรีเซ้นบาง

    เพื่อนๆผมในกลุ่มจึงขอร้องให้ผมเขียนบทใหม่อีกครั้ง เห็นว่าเนื้อเรื่องนั้นยาวเกินไปและซับซ้อนอาจจำบทไม่ได้ แต่ผมอธิบายก่อนที่จะแต่งเรื่องเอาไว้ว่า "ผมจะเป็นคนบรรยายทั้งเนื้อเรื่องและคำพูดตัวละคร ผมจะชี้นิ้วสั่งเองว่าใครจะออกไปแสดงและให้แสดงท่าทางอย่างไง แม้จะไม่ต้องแสดงท่าทางออกมาเป๊ะๆนัก" (ผมรู้อยู่แล้วว่ามันยากท่าจะให้แสดงเหมือนละครผมจึงปรับให้เป็นเรื่องที่เน้นคำบรรยายมากกว่าแสดงท่าทาง)

      ...ผมจึงต้องเขียนบทใหม่ทั้งหมด  ต้องเขียนเป็นละครสั้นและไม่ซับซ้อนซึ่งผมไม่ค่อยชอบนักแต่ก็ต้องจำใจทำ    และนี้เป็นเรื่องสั้นที่ผมเปลี่ยนชื่อเป็นตัวละครวรรณกรรมของผม เพราะมันไม่ต้องเอาไปพรีเซ้นแล้วนี่นะ ฮะ ฮะ

     

    อเล็ทเซียร์  เรซีน

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ตอนที่ 1 B-boy ถ้าดูป้ายที่ติดกำแพงละก็นะ
       
      ตัวละคร
             1) B-boy   กลวัชร  ศิราโคตมะ
             2) B-boy   ญาณิตา  แสงพฤกษา
             3) เจ้าหน้าที่ตำรวจ     
             4) ภารโรงอุ้มกับภารโรงผึ้ง
       
      ตำรวจ:  อ๋า~~เ      วันนี้อากาศดีจังเลยนะ  (มองท้องฟ้า แต่ไม่ได้มองอาคารที่อยู่ตรงหน้า)หวังว่าวันนี้จะไม่มีเหตุร้ายๆ อีกนะ (เดินไปสักพักก็ไปเหยียบขี้?)  อ้าก โอ้โห้ขี้อีกแล้วเหรอ  เวรเอยยย      (เห็นภารโรงและรีบเดินเข้าไปทัก) ป้าสวัสดี  วันนี้เป็นไงบ้างครับ….
       
      B-boy:  hey  boy, what’s  your  name?
      Y’Gotta  nice  car  are  you  going  my  way!
      Hey  boy,  l’m  diggin’  your  style
      Pull the top down, let’s kick it for a whie
      like oh! oh! oh! oh! (Baby) oh! oh! oh! (Baby) oh! (Baby) oh! oh! oh!....  
      Link music https://www.youtube.com/watch?v=A1xmg4pUR-0&list

      B-boy:  เห้ยยยย… น่าเบื่อชะมัดเลย ว่าไหมนาย (ญาณิตาหันไปหากลวัชร)
      อ่า~  ใช่   แถวนี้มันมีแต่คนธรรมดาผ่านไปผ่านมาทั้งนั้น  ตั้งแต่พวกแก๊งฉลามดำนั้นมายึดถิ่นของพวกเราตอนนั้น  (กลวัชรเอามือล่วงกระเป๋าหันเข้าหากำแพง)ก็แยกย้ายกันไปหมด   …ไอ้พวกเวร
      (กลวัชรนั่งเงียบอยู่พักหนึ่งก็บ่นขึ้นว่า) จะว่าไปที่นี้ก็ทำอย่างอื่นไม่ได้เลย นอกจากเปิดเพลง แล้วเต้นไปบาง… น่ะนะ // (ญาณิตาแย้งขึ้น) ถ้าพวกบ้านั้นกลับมาก็ดี
       
      จากนั้นทั้งสองก็เดินออกไปเรื่อยๆ เพื่อจะเจอสักที่  ที่ที่เหมาะแก่การสังสรรค์ของทั้งคู่
      จนใกล้พลบค่ำทั้งสองเดินมาถึงอาคารแห่งหนึ่งซึงเป็นบริเวณที่ไม่ค่อยมีใครผ่านมาเพราะเป็นย่านที่ห่างจากถนนสัญจรเมืองหลวง
      (กลวัชรรู้สึกเบื่อจึงถามพลอยว่า)
      “เฮ้  เรามาสร้างศิลปะกันแถวนี้ดีไหมล่ะ?”  เมื่อท้องฟ้ามืดลง ทั้งสองจึงกลับมายังอาคารนี้อีกครั้งทีและแอบพ่นสีสเปรย์ตามจุดมุมมืดและไม่อยู่ในสายตาผู้คน  ขีดเขียนคำด่าทอเชิงทางอ้อม และ วาดรูปแปลกประหลาด(ซึ่งเป็นบริเวณห้ามขีดเขียน มีป้ายติดอยู่บนกำแพง)  ไม่นานนักทั้งสองก็รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาใกล้จึงรีบเผ่นหนีไป
       
      คืนนั้นภารโรงสองคนกำลังกวาดฟุตบาทบริเวณอาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งเขาเป็นภารโรงที่ทำความสะอาดตอนกลางคืนเป็นหลัก (ภารโรงอุ้มหันไปถามผึ้ง) “นิ ได้ยินเสียงอะไรไหม”
      “เอ้อ  นั้นดิ”
      “ไปดูกันเถอะ”
      ภารโรงทั้งคู่เดินไปหาต้นเสียง เสียงนั้นดัง “ซู่ๆ” พอเดินไปถึงที่มาของเสียงก็พบว่าไม่มีใครอยู่
      ทว่าภารโรงผึ้งมองสำรวจไปก็พบว่ากำแพงถูกขีดเขียนฝาผนังเข้าให้แล้ว
      (ผึ้งพูดขึ้น)“ว้าย  พวกมือบอลมาขีดเขียนกำแพงอีกแล้วเหรอเนี่ย”
      “ให้ตายสิ เด็กสมัยนี้เตือนยังไงก็ไม่ฟังจริงๆ” (อุ้มพูดกับผึ้ง)
       
      ภารโรงผึ้งจึงได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนกำแพงเมื่อวานให้ฟังกับตำรวจ
      ตำรวจ:  วันนั้นป้าเห็นหน้าคนร้ายรึเปล่า?
      ภารโรง:  ป้าไม่เห็นหน้าคนร้าย
      ตำรวจ:  แถวนั้นมีกล้องวงจรปิดไหม
      ภารโรง:  อืม…ก็มีอยู่ตัวหนึ่งนะ เสาไฟตรงมุมหนึ่งของอาคารข้างๆน่ะ
      ตำรวจดูภาพจากกล้องวงจรปิดจึงได้เห็นหน้าคนร้ายซึ่งเป็น B-boy กลุ่มหนึ่งที่ไม่มีความร้ายแรงมากเท่ากับแก๊งฉลามดำที่กำลังตามจับตัวกุม  B-boy กลุ่มนี้มีชื่อว่า “micro excel”
      ตำรวจจึงให้เพื่อนคนหนึ่งซึ่งเป็นสายสืบให้ช่วยตามหาเบาะแสที่อยู่ และไม่กี่วันสาบสืบก็ได้เบาะแสถึงที่อยู่ b-boy สองคนนี้และเตรียมตามจับกุม  วันต่อมาหลังจากวางแผนจับกุม
      b-boy ทั้งสองก็ถูกตำรวจ 2-3 คนจับกุมตัวเข้าไว้ในที่สุด (ในขณะที่อยู่ใน 7-eleven)
       
      ณ โรงพัก
      B-boy  กลวัชร:  คุณตำรวจจับพวกผมมาทำไม
      ตำรวจ:  พวกนายสินะ ที่พ่นสีสเปรย์  และขีดเขียนกำแพงฝาผนังจนเละอย่างนั้น
      B-boy  ญาณิตา:  ไม่ใช่สักหน่อย  พวกเราไม่ได้ทำ
      B-boy  กลวัชร:  ใช่  ไหนล่ะ หลักฐาน
      ตำรวจเอาโทรศัพท์มือถือที่มีคลิปวีดีโออัดไว้ในเหตุการณ์
      B-boy ทั้งสองไม่มีข้อแก้ตัว แต่ตำรวจเห็นว่าทั้งสองยังเป็นแค่เยาวชนจึงไม่ส่งเข้าคุก จึงตักเตือนทั้งสองไม่ให้ทำอีก  เพื่อเป็นการไถ่โทษถ้าไม่อยากให้เรียกผู้ปกครองมาพบตัวก็ให้ทำความสะอาดกำแพงเสีย ตำรวจและภารโรงจะช่วยทำความสะอาดด้วย  B-boy ทั้งสองจึงสำนึกผิดลง
       
      ก่อนจะปล่อยตัวไปตำรวจได้ถามเบาะแสเกี่ยวกับแก๊งฉลามดำขึ้น…
      “พวกนายรู้เบาะแสเกี่ยวกับพวกแก๊งฉลามดำไหม?” B-boy ทั้งสองจึงให้เบาะแสที่อยู่ไปซึ่งเดิมทีเป็นถิ่นของพวก B-boy กลุ่มนี้  
      …สุดท้ายแก๊งฉลามดำก็ถูกจับกุม B-boy ทั้งสอง
      ดีใจมากกับการทำงานของตำรวจ และเมื่อเรื่องดังเป็นข่าว เพื่อนๆของ B-boy ทั้งสองก็ได้กลับมาร่วมตัวกันอีกครั้ง  B-boy ทั้งสองสัญญาว่าจะไม่ขีดเขียนบริเวณเขตห่วงห้ามอีก
       
       
      The end

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×